1.พระราชวังเดิมของกรุงธนบุรีมีอาณาเขตคับแคบ
มีวัดขนาบอยู่ทั้ง 2 ข้าง คือวัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม)
และวัดท้ายตลาด (วัดโมลีโลกยาราม)
ทำให้ไม่สามารถขยายเขตของพระราชวังให้กว้างขวางออกไปได้
2.ที่ตั้งของกรุงธนบุรีอยู่บนท้องคุ้งของแม่น้ำเจ้าพระยา
น้ำจึงกัดเซาะตลิ่งพังอยู่ตลอด ทำให้ไม่สามารถสร้างถาวรวัตถุต่างๆได้
3.กรุงธนบุรีไม่เหมาะแก่ยุทธศาสตร์
เพราะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
จึงเป็นเสมือนเมืองอกแตก
เมื่อใดที่ข้าศึกยกทัพมาตามลำน้ำก็สามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้โดยง่าย
แผนผังแสดงที่ตั้งสถานที่สำคัญ
แนวคลอง และกำแพงเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงเห็นว่าการตั้งเมืองที่ฝั่งตะวันออก
ทำให้สามารถขยายเมืองออกไปได้กว้างขวาง
เนื่องจากเป็นท้องทุ่งโล่ง อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำนา
มีแม่น้ำไหลผ่านอกสู่ทะเลบริเวณอ่าวไทย ทำให้เป็นประโยชน์ต่อการติดต่อค้าขาย
พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระบรมมหาราชวังแห่งใหม่ขึ้นที่ตำบลบางกอกเป็นถิ่นทีอยู่ของชาวจีน
พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ
ให้ย้ายชุมชนชาวจีนไปตั้งบ้านเรือนใหม่ที่บริเวณสำเพ็งในปัจจุบัน
แล้วทรงประกอบพระราชพิธียกเสาหลักเมืองขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 หลัง จากนั้นได้เริ่มก่อสร้างพระนครเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม
พ.ศ.2325 มีพระยาธรรมาธิกรณ์และพระยาวิจิตรนาวี
เป็นแม่กองก่อสร้างพระนคร
ในระยะแรกเป็นการสร้างพระราชมณเฑียรด้วยไม้เป็นการชั่วคราวเพื่อให้ทันการประกอบพระราชพิธีบรมราชาพิเษกในวันที่
13 มิถุนายน พ.ศ.2325 หลังจากทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาพิเษกขึ้นเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
แล้วได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังใหม่เป็นการถาวร โปรดเกล้าฯ
ให้สร้างพระมหาปราสาทและหมู่พระที่นั่ง เช่น พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิน พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน และ พระที่นั่งอินทราภิเษกมหาปราสาท ต่อมาเกิดไฟไหม้จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมหาปราสาทขึ้นใหม่ในที่เดิม
พระราชทานนามว่า พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วัดพระแก้วในเขตพระบรมมหาราชวัง

นอกจากนี้
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ยังโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วในเขตพระบรมหาราชวัง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่พระองค์ทรงอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์
เมื่อคราที่ไปทำสงครามกับลาวในสมัยธนบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น